เลือกภาษา
Menu

เสริมจมูก สวย และปลอดภัย ช่วยเพิ่มมิติให้กับใบหน้า

สารบัญ

การเสริมจมูกนับได้ว่าเป็นหนึ่งในการทำศัลยกรรมที่เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในยุคปัจจุบัน เพื่อที่จะช่วยให้ใบหน้าดูสมบูรณ์และโดดเด่นมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยเพิ่มความมั่นใจความกล้าที่จะเข้ากับ

สังคมได้ดีอีกด้วย   ก่อนที่จะเข้ามารับการเสริมจมูกนั้นก็จำเป็นที่จะต้องมีความเข้าใจ และควรจะต้องมี

การศึกษาข้อมูลไว้ก่อนเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการทำศัลยกรรมจมูก รวมไปถึงจะต้องได้รับการผ่าตัด

จากแพทย์ผู้ที่มีความชำนาญการเฉพาะด้าน เพื่อให้ได้รูปทรงของจมูกที่มีความพึงพอใจ มีความสวยงาม และที่สำคัญจะต้องมีความปลอดภัยอย่างมากอีกด้วย

เสริมจมูกคืออะไร

Rhinoplasty หรือ การเสริมจมูก คือ การผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งทรงจมูก เพื่อให้จมูกมีความโด่งขึ้นสวยขึ้น ได้สัดส่วนที่เหมาะสมทำให้ใบหน้าดูมีมิติ และการเสริมโหวเฮ้ง หรือลดความโด่งของดั้งได้อีกด้วย

นอกจากจะทำเพื่อความสวยงามแล้ว ก็ยังทำเพื่อการแก้ไขจมูกที่ผิดรูปทรงหรือเสียหายจากอุบัติเหตุ หรือการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง หรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการหายใจและความบกพร่องที่มีมาแต่กำเนิด

ได้ดีอีกด้วย

เสริมจมูกมีกี่วิธี

การเสริมจมูกที่ SEOUL CLINIC THAILAND ทั้ง 3 วิธี

– CLOSE

เสริมจมูกแบบปิด เป็นเทคนิคเสริมจมูก ที่ทำกันทั่วไปและนิยมทำกันมาก เนื่องจากราคาไม่แพง และดูรักษาแผลได้ง่าย ไม่ต้องวางยาสลบ พักฟื้นน้อย หลังทำสามารถตรวจเช็กทรงจมูกได้ทันที เพราะจะเปิดแผลรูจมูกแค่เพียงข้างเดียว เพื่อใส่ซิลิโคน ตั้งแต่สันจมูกถึงปลายจมูกเน้นจมูกโด่ง เหมาะสำหรับเคสเสริมใหม่หรือเสริมจมูกครั้งแรก คนที่มีรูปทรงจมูกของเดิมที่ดีอยู่แล้ว และไม่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างจมูก

– SEMI-OPEN

เสริมจมูกแบบ Semi open เป็นเทคนิคเสริมจมูก ที่อยู่ระหว่างการเสริมจมูกแบบปิดและเสริมจมูกแบบเปิด โดยจะทำการเปิดแผลรูจมูกทั้ง 2 ข้าง ทำให้เห็นโครงสร้างของจมูกได้มากกว่าเสริมจมูกแบบปิด แต่ไม่เท่าการเสริมจมูกแบบเปิด จุดเด่นของเสริมจมูกเทคนิคนี้สามารถเย็บอินเตอร์โดม ตกแต่งปลายจมูกเรียวได้ด้วย เหมาะสำหรับเคสเสริมใหม่หรือเสริมจมูกครั้งแรก คนที่มีรูปทรงจมูกของเดิมที่ดีอยู่แล้ว และคนที่มีปัญหาจมูกใหญ่ จมูกชมพู่ ต้องการปลายจมูกเรียวสวย ยกสูง

– OPEN NOSE RECONSTRUCTION

เสริมเสริมแบบโอเพน หรือแบบเปิด เป็นเทคนิคเสริมจมูก ด้วยการเปิดแผลบริเวณฐานจมูก เพื่อให้เห็นโครงสร้างของจมูกได้มากขึ้น ทำให้คุณหมอสามารถปรับแต่งทรงจมูกได้ง่ายและตรงจุดกว่าการเสริมจมูกแบบปิด ทำให้ได้ทรงจมูกที่สวย ตามใจต้องการ เหมาะสำหรับทุกเคส หรือคนที่มีจมูกสั้น เนื้อจมูกน้อย ที่ต้องการทรงจมูกเรียวยาว มีปลายหยดน้ำ

ในการเสริมจมูกทั้ง 3 วิธีนั้น เป็นการผ่าตัดเสริมจมูกในปัจจุบันวิธีที่นิยมมากที่สุดคือ การเสริมจมูกแบบกึ่งเปิด (Semi-Open Rhinoplasty) และการเสริมจมูกแบบเปิด (Open Nose Reconstruction) ขึ้นกับปัญหาจมูกและผลลัพธ์ที่ต้องการของแต่ละคน

ข้อดี – ข้อเสีย ของการเสริมจมูกแบบเปิด แบบปิด และแบบกึ่งเปิด

วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก

1. ซิลิโคน

- ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป

จะขึ้นเป็นทรงมาให้แล้ว มีโอกาสเบี้ยวหรือเอียงน้อย เรียกชื่อตามลักษณะทรงจมูก มีมาตรฐาน ผ่านอย. เนื้อซิลิโคนนิ่ม บิดได้ มีแกนป้องกันการเบี้ยวเอียงได้ดี เช่น ซิลิโคนแมนทิส, ซิลิโคนบาร์บี้, ซิลิโคนแบบ DUAL MIX SOFT มีความปลอดภัย ไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน (Biocompatibility) ซึ่งรูปแบบการเลือกใช้จะแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมและงบประมาณ โดยแพทย์ของเราจะมีการเหลาตกแต่งเพิ่มเติมเคสต่อเคสเพื่อให้เข้ากับรูปหน้ามากที่สุด ทั้งนี้ซิลิโคนจะมีหลายขนาดทำให้สามารถเลือกให้เหมาะกับแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมและนำมาเหลาต่อให้สวยงาม

- ซิลิโคนแบบเหลาเอง

จะมาเป็นแท่งหรือบล็อกสี่เหลี่ยม แพทย์จะเป็นคนดีไซน์และเหลาทรงให้เข้ากับรูปจมูกแต่ละเคส ต้องอาศัยความแม่นยำอย่างมาก ตัวซิลิโคนมีลักษณะเรียบลื่น ไม่เป็นขุย ใช้เวลานานและอาจเกิดความผิดพลาดในการเหลาได้มากกว่า

2. กระดูกอ่อน

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบกระดูกอ่อน คือ ช่วยลดความเสี่ยงที่ปลายจมูกจะทะลุในระยะยาว เพราะเป็นการเพิ่มความหนาของผิวหนังบริเวณปลายจมูก ป้องกันไม่ให้ซิลิโคนกระทบกับผิวหนังปลายจมูกโดยตรง ลดการเสียดสี และเป็นวิธีที่ทำให้ปลายจมูกดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น 

เราสามารถใช้กระดูกอ่อน จากจุดไหนมาเสริมจมูกได้บ้าง

- กระดูกอ่อนหลังใบหู

นิยมใช้มากที่สุด ตัวกระดูกอ่อนจะมีลักษณะโค้งงอเล็กน้อย หลังจากนำกระดูกอ่อนออกมาจากเบ้าในใบหู จะไม่ทำให้ใบหูเปลี่ยนรูป แต่อาจต้องดูแลแผลหลังใบหูเพิ่มขึ้น และต้องงดสระผม 12 สัปดาห์

- กระดูกอ่อนซี่โครง

เป็นวิธีที่แพทย์จะต้องเปิดเอากระดูกซี่โครงอ่อนขนาด 25 cm ออกมา 12 ซี่ โดยจะมีแผลบริเวณใต้ราวนม ใช้เวลาในการผ่าตัดนาน และต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง

การเสริมจมูกแบบปิด (Close Rhinoplasty) และการเสริมจมูกแบบกึ่งเปิด (Semi-Open Rhinoplasty)

เป็นเทคนิคการเสริมจมูกที่นิยมที่สุดในปัจจุบันมีการใช้ซิลิโคนแท่งในการเสริมบริเวณสันและปลายจมูกมีการต่อเติมบริเวณปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียมหรือกระดูกอ่อนไขมันหลังใบหูซึ่งช่วยให้ซิลิโคนไม่ต้องสัมผัสกับเนื้อจมูกโดยตรง นอกจากจะช่วยให้ปลายพุ่งขึ้นได้และยังช่วยป้องกันการทะลุอีกด้วย โดยที่ SEOUL CLINIC THAILAND จะใช้การรองปลายเพิ่มความละมุนด้วยเทคนิค QDPL คือ การรองปลายจมูกถึง 4 ชั้นได้แก่ กระดูกอ่อนหลังหู เนื้อเยื่อไขมันหลังหูเนื้อเยื่อหลังหูและเนื้อเยื่อ TIP BALL พิเศษเพื่อเพิ่มความโด่ง ละมุนในระยะยาว

ทั้งนี้การเสริมจมูกแบบปิด (Close Rhinoplasty )และการเสริมจมูกแบบกึ่งเปิด (Semi-Open Rhinoplasty) ในบางครั้งไม่สามารถแก้ไขปัญหาจมูกในหลายหลายรูปแบบได้เนื่องจากเป็นเพียงการเสริมซิลิโคนเข้าไปโดยไม่ได้มีการแก้ไขโครงสร้างภายใน ไม่ได้มีการยืดผนังกั้นจมูก ดังนั้นทรงจมูกจึงขึ้นกับรูปร่างของซิลิโคนเป็นสำคัญ ซึ่งปัจจัยอื่นๆ เช่น ชั้นผิวหนัง ฐานจมูกเดิม เนื้อจมูกมีมากพอและยืดหยุ่น จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการใส่ซิลิโคนเข้าไปในจมูกของเราโดยไม่เกิดการทะลุและเห็นผลลัพธ์ที่พึงพอใจ ในกรณีที่จมูกของเรามีข้อจำกัด หรือมีความไม่พอดี หรือผิดรูป เช่น จมูกเดิมที่เนื้อน้อยมากๆและต้องการได้จมูกโด่งพุ่ง จมูกเหิน จมูกใหญ่จมูกสิงโต หรือจมูกที่แก้มาหลายหลายครั้งจนเกิดพังผืดจำนวนมากซึ่งเป็นอุปสรรคในการแก้จมูกให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ในบางครั้งเราจึงมักได้ยินหลายคนพูดว่า “เคยแก้จมูกจากที่อื่นมาหลายครั้งแล้ว แต่แทบไม่เปลี่ยนแปลงเลย” นั่นเป็นเพราะพังผืดที่ก่อตัวขึ้นเป็นตัวรั้งทรงจมูกไว้ การแก้จมูกแบบ OPEN จึงเข้ามามีส่วนสำคัญในจุดนี้

เสริมจมูกแบบ Close และ Semi-Open เหมาะสำหรับใคร ?

เหมาะสำหรับเคสเสริมใหม่หรือเสริมจมูกครั้งแรก เคสที่ไม่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างจมูก และเคสจมูกที่มีปัญหาไม่ซับซ้อนมาก เช่นคนไข้จมูกเสริมใหม่ คนไข้จมูกที่มีความโด่งอยู่พอประมาณ หรือ จมูกคนไข้ที่ต้องการความโด่งดูสโลปเป็นธรรมชาติ

เสริมจมูก ตอกฐานจมูก คืออะไร ?

การตอกฐานจมูก คือ เทคนิคการตัดแต่งกระดูกแข็งบริเวณจมูก (Nasal Osteotomy) แก้ปัญหาฐานจมูกใหญ่/กว้าง ทำให้มุมหน้าตรงจมูกดูใหญ่โดยการตอก และบีบฐานกระดูกให้แคบเข้ามา เพื่อลดขนาดของฐานกระดูก จะมีแผลเล็กมากขนาด 2-3 mm บริเวณฐานจมูก 2 ข้าง เป็นศัลยกรรมยอดฮิตในเกาหลี ช่ายให้จมูกเรียวสวย ดูดี

*คนที่มีปัญหาฐานจมูกกว้าง ทำให้จมูกดูใหญ่ ใบหน้าขาดมิติ ทรงจมูกดูไม่ชัดต้องแก้ไขได้ด้วยการตอกฐานจมูก

คำถามยอดฮิตของการเสริมจมูกตอกฐาน

เสริมจมูกพร้อมตัดปีกจมูก

อย่างที่หมอบอกไปในตอนต้นว่า ด้วยลักษณะทางพันธุกรรมทำให้คนเอเชียมีฐานจมูกเตี้ยและปีกจมูกกว้าง จึงนิยมเสริมดั้งไปพร้อมกับการตัดปีกจมูกกว้าง จมูกบานให้แคบลงในการผ่าตัดครั้งเดียว

การลดขนาดปีกจมูกโดยส่วนมากจะแก้ไขเฉพาะส่วนปีกด้านข้าง ซึ่งมีผิวหนังและกล้ามเนื้อเท่านั้น และซ่อนแผลไว้บริเวณขอบของปีกจมูก ซึ่งในการตัดปีกจมูกจะต้องคำนึงถึงความสมดุลกับจมูกส่วนบน และสันจมูก หลังทำจะช่วยให้รูจมูกเล็กลงด้วยครับ

ขั้นตอนการตัดปีกจมูก

  1. ปรึกษาแพทย์และวางแผนการผ่าตัดร่วมกัน
  2. ทำความสะอาดโพรงจมูก และบริเวณที่จะผ่าตัด
  3. ฉีดยาชา หรือวางยาสลบ (กรณีใช้เทคนิคผ่าตัดแบบเปิดเพื่อเสริมจมูกด้วย)
  4. เริ่มผ่าตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินที่กางออก และจัดโครงสร้างฐานจมูกใหม่ ใช้เวลาในการผ่าตัด 30-45 นาที (เฉพาะการตัดปีกจมูก)
  5. เย็บปิดแผล และนอนพักฟื้นประมาณ 1 ชั่วโมง
  6. กลับมาติดตามผลและตัดไหมหลังจาก 1 สัปดาห์

เสริมจมูกทรงต่างๆ ที่โซลคลินิก

การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก

  1. งดสูบบุหรี่ ,งดเครื่องดื่มแอลกฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  2. งดยาแก้ปวด ลดกล้ามเนื้ออักเสบ ก่อนผ่าตัด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin) เพื่อลดอาการฟกช้ำจากเลือดคั่งหลังผ่าตัด แต่กรณีที่จำเป็นต้องใช้ แนะนำให้ใช้ยาพาราเซตามอนในการบรรเทาอาการปวดเท่านั้น
  3. ควรงดวิตามิน น้ำมันตับปลา อาหารเสริมต่างๆ ทุกชนิด เนื่องจากอาหารเสริมเหล่านี้ อาจส่งผลให้เลือดหยุดไหลช้า
  4. งดของแสลงจำพวกของหมัก ของดอง น้ำอัดลม รวมถึงอาหารทะเล
  5. ในกรณีที่ต้องวางยานอนหลับขณะผ่าตัด คนไข้ต้องงดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 8 ชม. และควรสระผมให้สะอาด งดทาครีมโลชั่นหรือทาเล็บในวันผ่าตัด

ศัลยกรรมเสริมจมูกด้วยซิลิโคนที่ SEOUL CLINIC THAILAND

“ปัญหาจมูกที่แตกต่างกัน ย่อมไม่สามารถใช้เทคนิคเดียวกันในการแก้ปัญหาได้ ผมเข้าใจในจุดนี้และได้นำเทคนิคและวิธีการที่หลากหลายมาปรับใช้ในการแก้ปัญหาจมูกของคนไข้อย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ทรงจมูกที่ตรงใจและแก้ปัญหาของคนไข้ได้จริงๆ ครับ”

ปัจจุบันการผ่าตัดเสริมจมูกด้วยซิลิโคน สามารถทำได้ง่ายไม่ซับซ้อน ใช้เวลาไม่นาน แต่การทำได้ให้โด่งสวยและปลอดภัยในระยะยาว ลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ต้องใช้เทคนิคพิเศษ การชำนาญของแพทย์ และวัสดุซิลิโคนที่คุณภาพดีและปลอดภัย

หมอก๊อต แพทย์ประจำโซลคลินิก เป็นสมาชิกของสมาคมศัลยกรรมและเวชศาสตร์เพื่อการเสริมสวยประเทศไทย (TACS) และจบการศึกษาต่อเนื่องด้านศัลยกรรมความงามจากประเทศเกาหลี (KCCS)และได้รับเชิญเป็นวิทยากรแพทย์ในงานประชุมแพทย์ระดับนานาชาติ IMCAS และ AMAS อีกด้วย โดยคุณหมอได้รวบรวมเทคนิคและประสบการณ์การผ่าตัดมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบทรงจมูกให้ออกมากตรงตามความต้องการของคนไข้มากที่สุดโดยมาควบคู่กับความปลอดภัยในระยะยาว

การศัลยกรรมเสริมจมูกด้วยซิลิโคน แบบ Semi-Open ที่ SEOUL CLINIC THAILAND

เป็นการผ่าตัดด้วยการเปิดแผล 2 ข้างในรูจมูก (Semi-Open technique) โดยแพทย์จะใช้วัสดุในการเสริมจมูกด้วย ซิลิโคนทางการแพทย์ (Implant-grade Silicone) ผ่าตัดเสริมจมูก พร้อมทั้งเย็บตกแต่งกระดูกอ่อนปลายจมูกเดิมด้วย Interdomal Suture เพื่อให้ปลายดูยกและเรียวเล็กมากขึ้น เป็นเทคนิคการผ่าตัดที่นิยมทำเพราะใช้เวลาการผ่าตัดไม่นาน พักฟื้นน้อย เหมาะสำหรับคนที่มีเนื้อจมูกและฐานจมูกพอประมาน ไม่เยอะเกินไป สามารถทำร่วมกับเทคนิคอื่นๆ เช่นการรองปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหูและไขมันหลังหู เนื้อเยื่อเทียม และ การตอกฐานกระดูกที่สะนจมูก แต่มีข้อจำกัดคือ ไม่เหมาะกับคนที่มีจมูกสั้น ขาจมูกสั้น และ เคสแก้ที่ต้องการ การเปลี่ยนแปลงที่โด่งขึ้นมาก

*การรองปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังหู จะทำให้ปลายจมูกดูโด่งขึ้นและลดการตึงของผิวที่ปลายจมูกจะทำให้โอกาสทะลุน้อยลง

*การตอกฐานกระดูกสันจมูก ไม่ใช่การตะไบฮัมที่จมูก แต่เป็นการตอกกระดูกสันจมูกให้หักเพื่อให้จมูกดูเล็กเรียวลงตั้งแต่สันจมูก

วิธีการศัลยกรรมเสริมจมูกแบบ Semi-Open ที่แพทย์ประจำโซลคลินิกเลือกใช้

1. การกรีดเปิดแผลแบบ Semi-Open เป็นการเปิดแผล 2 ข้าง ‘ในรูจมูก’ เพื่อแก้ไขโครงสร้างกระดูกอ่อนปลายจมูกได้อย่างแม่นยำ และมันใจว่าจะไม่เห็นแผลออกมาที่นอกปลายจมูก

2. ใช้ซิลิโคนคุณภาพ implant grade หรือคุณภาพสำหรับการปลูกฝังไว้ในร่างกายระยะยาวโดยจะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่างๆ และแพทย์จะทำการเหลาให้เข้ารับรูปกับใบหน้าของคนไข้ทุกมิติ ตั้งแต่สันจมูก ฮัมจมูก และปลายจมูก

3. ตะไบฮัมจมูก เพื่อลดการโด่งนูนของฮัมของกระดูกจมูก (Nasal hump) ที่ทำให้จมูกดูขรุขระ ไม่สวยและไม่ดูสโลปปลายพุ่ง

4. ตอกฐานกระดูกจมูก (Osteotomy) และตอกฮัมพ์ (Humpectomy) เพื่อลดฐานกระดูกจมูกให้ดูแคบลงในมุมหน้าตรง เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีฐานจมูกดูใหญ่กว้าง จมูกดูอ้วน หรือคนไข้ที่มีฮัมสูงมากกว่าปลายจมูกมาก ทำให้ดูจมูกงุ้มเป็นนกแก้ว

5. การผ่าตัดด้วยเทคนิคแบบลดการสูญเสียของเนื้อเยื่อไขมันส่วนปลายด้วย (Supracartilageneous Dissection) เพื่อไม่ให้เนื้อปลายจมูกสูญเสียไขมันและผิวหนังบางลงจากการผ่าตัด อีกทั้งยังมีการเลาะผังผืด (Fibrolytic Dissection) ในเคสแก้เพื่อให้จมูกดูสโลปสวยไม่แข็ง และลดผังผืดที่ทำเกาะรั้งในจมูกได้ดี

6. เย็บยกกระดูกอ่อนปลายจมูกด้วยเทคนิค “ยก Interdome” หรือ (interdomal suture) เพื่อยกให้ปลายจมูกเรียวขึ้น โด่งขึ้น ยกปีกจมูก และรูจมูกให้ดูสวยขึ้น

7. ขั้นตอนสุดท้ายการผ่าตัดด้วยเทคนิคเลาะเยื่อหุ้มกระดูกจมูก (Periosteum of nasal bone) และการวางซิลิโคนใต้เยื่อหุ้มกระดูก Subperiosteal and Interdomal Fixation (SPIF) ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของแพทย์ที่โซลคลินิก ลดการเคลื่อนตัวของซิลิโคนจมูกบริเวณสัน ซิลิโคนไม่ลอยและขยับโยกไม่ได้ ทำให้ซิลิโคนดูเนียนไปกับเนื้อผิวของจมูก

8. *รองปลายจมูกซิลิโคนเทคนิค QDPL 4 ชั้น เทคนิคเฉพาะที่ SEOUL CLINIC THAILAND ด้วย กระดูกอ่อนหลังหู เนื้อเยื่อหลังหู และไขมันหลังหู (Conchal Cartilage) และ Premium Tips เพื่อเพิ่มปลายจมูกให้ดูยกขึ้น สวยละมุนอย่างปลอดภัย ลดการบางของผิวหนังที่ปลายจมูก และกันทะลุ

9. เย็บแผลด้วยไหมละลาย ‘ในรูจมูก’ ลดการมองเห็นของรอยผ่าตัดจากภายนอกบริเวณจมูก

นอกจากนี้ เพื่อลดการเจ็บจากการฉีดยาชา ที่โซลคลินิกยังมีบริการ ฟรี! ฉีดยาคลายกังวลหรือยาเบลอให้ลูกค้าเพื่อให้ไม่รู้สึกเจ็บแม้ตอนฉีดยาชาอีกด้วย หรือนอกจากนั้นลูกค้ายังสามารถเลือกรับบริการยานอนหลับเพื่อความสบายในการผ่าตัดลดความกังวลตลอดการผ่าตัดได้ (ยานอนหลับค่าบริการเพิ่มเติม)


สำหรับคนไข้ที่ต้องการเสริมจมูกเคยแก้ไขมาเยอะแล้วไม่โด่ง คนไข้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่จมูกโด่งสโลปสวยมาก หรือ คนไข้ที่มีปัญหาโครงจมูกเดิมเยอะ แนะนำให้เป็นการผ่าตัดแก้ไขโครงสร้างจมูกแบบไร้ซิลิโคน หรือที่เรียกว่า OPEN NOSE RECONSTRUCTION ครับ

การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก

ในการปฏิบัติตัวหลังจากการผ่าตัดแก้จมูกหรือการ เสริมจมูก ก็มีความสำคัญ ซึ่งทุกท่านควรศึกษาถึงรายละเอียดเพื่อป้องกันปัญหาให้ได้มากที่สุด  ในช่วง 72 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด ให้ประคบเย็นบริเวณใบหน้าที่ไม่ใช่ในบริเวณแผล เพื่อช่วยให้เลือดหยุดไหลและยุบบวมไว ถ้าหากมีเลือดไหลออกมาภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากที่ได้รับการผ่าตัด ให้ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดออกเบา ๆ หลังจาก 72 ชั่วโมง แผลจะเริ่มสนิทกันและสามารถประคบอุ่นเพื่อลดรอยม่วงหรือรอยเขียวช้ำได้ จะต้องหลีกเลี่ยงการไปในที่ที่มีฝุ่นละอองมากประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อป้องกันการไอจาม ควรรับประทานอาหารอ่อนงดอาหารที่แข็ง ไม่ให้บาดแผลโดนน้ำอย่างน้อย 3 วัน ห้ามแคะ แกะ ขยี้บริเวณจมูก ให้หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำเด็ดขาด และถ้าหากมีอาการอะไรผิดปกติให้ไปพบแพทย์ในทันที

 

ดังนั้นการ เสริมจมูก ที่ปลอดภัยก็จะต้องมีการศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนทำการตัดสินใจ ที่สำคัญควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อนเสมอเพื่อให้ได้รับคำแนะนำอย่างถูกต้อง ช่วยลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน หรือการกระทำใดๆ ก็ตามที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหลังจากเสริมจมูก และสิ่งที่สำคัญก็คือควรปฏิบัติตนตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด สำหรับท่านใดที่ยังมีความกังวลว่าจะไป เสริมจมูกที่ไหนดี ทุกท่านก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปเลย เพราะท่านสามารถเข้ามาศึกษาผ่านทางเว็บไซต์ได้ตลอดเวลา

แนะนำการ เสริมจมูกผู้ชาย ที่ควรเลือกใช้บริการ

สำหรับผู้ชายที่ต้องการจะเลือกใช้บริการ เสริมจมูกผู้ชาย ทุกท่านสามารถเข้ามาศึกษาผ่านทางเว็บไซต์เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกว่า ท่านควรที่จะเลือกใช้บริการ เสริมจมูกที่ไหนดี ที่ทำให้ท่านสามารถได้รูปทรงจมูกตามความต้องการ โดยทางเว็บไซต์ได้มีการแนะนำเอาไว้ดังต่อไปนี้

  • จะต้องเลือกใช้บริการกับทางคลินิก หรือโรงพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน ได้รับการอนุญาตให้เปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • ต้องเลือกใช้บริการกับแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีการรับรองจากสมาคมศัลยกรรมแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย มีประสบการณ์ในการผ่าตัดมากกว่า 10 ปี สามารถผ่าตัด เสริมจมูกผู้ชาย ได้อย่างหลากหลายรูปแบบเพื่อให้มีความเหมาะสมตามต้องการ
  • จะต้องมีเทคนิคให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการ เสริมจมูกแบบโอเพ่น การเสริมแบบซิลิโคนเกาหลีเกรดพรีเมียม การเสริมซิลิโคนอเมริกา การเสริมซิลิโคนและกระดูกอ่อนหลังหู หรือจะเป็นการเติมปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียมหรือกระดูกอ่อนหลังหู การตัดเย็บปีกจมูก
  • อุปกรณ์ที่ใช้จะต้องเป็นเครื่องมือที่มีความทันสมัย ครบครันและปลอดภัยได้มาตรฐาน ในส่วนของซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูกก็จะต้องได้รับมาตรฐานสากล 
  • มีพื้นที่การรองรับสำหรับการพักฟื้น มีความสะอาดสูง ปลอดเชื้อ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน

การ เสริมจมูก ที่ทุกท่านไม่ควรพลาดก็คือจะต้องมีการปรึกษาแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำก่อนที่จะทำการตัดสินใจในการเสริมจมูกนั่นเอง

เสริมจมูกที่ SEOUL CLINIC THAILAND ดีอย่างไร ?

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเสริมจมูก

เสริมจมูกเจ็บไหม ?

ในระหว่างการผ่าตัดจะมีการใช้ยานอนหลับหรือยาชา ซึ่งคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บขณะทำครับ แต่หลังจากนั้นต้องกลับไปพักฟื้นอาจมีอาการช้ำ ระบม เป็นเรื่องปกติ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ

เสริมจมูกใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน ?

หลังเสริมจมูก จะใช้เวลาในการพักฟื้น 2-3 วัน โดยจะต้องมาตามนัดเพื่อติดตามผลและตัดไหม รวม ๆ แล้วอาจจะใช้เวลาพักฟื้นให้รอยช้ำต่าง ๆ จางหายไป ประมาณ 7-14 วัน ทั้งนี้อาจใช้เวลาพักฟื้นนานมากขึ้นตามสภาพร่างกายของแต่ละเคส

หลังเสริมจมูกกินอะไรได้บ้าง ? และห้ามกินอะไรบ้าง

ส่วนใหญ่ก็จะทานได้หมด ยกเว้นอาหารแสลงบางชนิด ควรหลักเลี่ยง เช่น ของหมักดอง ของสุก ๆ ดิบ ๆ อาหารทะเล งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ที่ส่งผลต่อการอักเสบ และทำให้แหลหายช้า

เสริมกระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อ หลังหูที่โซลคลินิกดียังไง?

เสริมจมูกที่โซลคลินิก ราคาเท่าไหร่ ?

“รูปราคาเสริมจมูก”

*ราคาเสริมจมูกในแต่ละเคส ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์และความต้องการของคนไข้ เนื่องจากคนไข้แต่ละคนมีปัญหาและความต้องการแตกต่างกันไป ควรปรึกษาและวางแผนการเสริมจมูกร่วมกับแพทย์

จมูกเนื้อน้อยทำได้ไหม ?

กรณีเสริมจมูกเนื้อน้อย สามารถทำได้เพียงแต่มีโอกาสจมูกทะลุมากกว่าคนทั่วไป ทำความโด่ง หรือความเชิดขึ้นได้จำกัด โดยเทคนิคที่ควรใช้คือการผ่าตัดเสริมจมูกแบบ OPEN เพื่อปรับโครงสร้าง ยืดผนังกั้นจมูก และรองปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู จะทำให้จมูกยาวขึ้นกว่าเดิมโดยไม่รั้งปลาย เหมาะกับทั้งคนที่มีจมูกเนื้อน้อย และจมูกสั้น

จมูกสั้น ...ใช้ซิลิโคนเสริม เพื่อยืดจมูกได้ไหม?

จมูกเบี้ยวถ้าเลือกซิลิโคน เสริมเพื่อบดบังดีไหม?

เสริมจมูกผู้ชาย เสริมจมูกผู้หญิง แตกต่างกันไหม ?

ปัจจุบันการศัลยกรรมจมูกเป็นที่นิยมทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย แต่นอกจากต้องการแก้ไขทรงจมูก หรือเพิ่มความโด่งแล้ว ความต้องการของแต่ละกลุ่มก็จะต่างกัน

 

เสริมจมูกผู้ชาย จะเน้นเรื่องการทำดั้งโด่งมาก ๆ มีสันจมูกตรงสวยตั้งแต่ช่วงระหว่างคิ้วลงมา เพื่อเพิ่มแมน ความเท่ห์ ความคมให้ใบหน้า

เสริมจมูกผู้หญิง แล้วแต่ความนิยมเช่น บางคนชอบแนวเกาหลี แนวสายฝอ แนวแขก

ทั้งนี้ไม่ได้จำกัดว่าถ้าเป็นผู้ชายต้องทำทรงแบบนี้ ผู้หญิงต้องแบบนี้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน

จมูกสวยในอุดมคติเหมือนกัน...แต่ทำไมเสริมมาแล้วถึงไม่เหมือนกัน

ถ้าถอดซิลิโคนออกแล้วจมูกจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม?

เสริมจมูก เคสแก้ รองกระดูกอ่อน+เนื้อเยื่อ+ไขมันหลังหู

สวัสดีค่ะ วันนี้ชื่อมายด์นะ ทำศัลยรรมที่โซลคลินิก พัทยา มาแล้วหลายอย่างค่ะ ตั้งแต่ เติมไขมันหน้าเด็ก เสริมร่องแก้ม

จนมาถึงวันที่มาด์อยากแก้จมูกค่ะเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับการเสริมจมูกครั้งก่อนหน้านี้ทำมาได้ประมาณหนึ่งปีจมูกเริ่มบาง ปลายใส

มีอาการเสียวบริเวณปลายจมูกซึ่งถือเป็นอาการที่บ่งบอกว่ามีความเสี่ยงต่อการทะลุในอนาคตค่ะ

อันนี้เป็นรูปของจมูกของมายด์ก่อนแก้นะคะ จะเห็นได้ว่าจมูกค่อนข้างมีโหนก(จริงๆ มายด์ไม่มีโหนกนะคะ แต่เกิดจากซิลิโคนครั้งก่อน

เหลาปลายไม่เรียบทำให้กลายเป็นมีโหนกขึ้นมา) ปลายงุ้มเล็กน้อยทำให้หน้าดูดุ ดูมีอายุกว่าความเป็นจริงค่ะ

ระหว่างทำไม่เจ็บเลยค่ะ คุณหมอจะบล็อกยาชาค่ะ ทำให้ระหว่างทำชิวมากค่ะ

จริงๆที่นี่ สามารถเลือกเป็นยานอนหลับระหว่างการทำได้นะคะ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ทำเสร็จแล้ว สำหรับคนที่กลัวมากๆสามารถเลือกเป็นตัวเลือกได้ค่ะ

อันดับแรกคุณหมอจะทำการผ่าตัดเอากระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อไขมันหลังหูออกมาก่อนนะคะ

ตอนฉีดยาชาและตอนทำหลังหูไม่เจ็บเลยค่ะ ไม่รู้สึกเลย หมอมือเบามากจริงๆค่ะ

ต่อมาคุณหมอจะฉีดยาชาที่บริเวณจมูกและเริ่มผ่าตัดค่ะใช้เวลาไม่นานประมาณ 50 นาที ตอนยาชาก็เจ็บนิดหน่อยแต่เท่าที่มายด์เคยฉีดสิว มายด์ว่าฉีดสิวเจ็บกว่านี้เยอะเลยค่ะ

หลังทำวันแรกมายด์ไม่บวมเลยค่ะ มายด์ก็มาบวชชีเลย ชิวมากๆ ใส่เฝือกหลังทำช่วยคุมอาการบวมและปกป้องทรงจมูกของเราได้ดีมากๆ ถูกใจมากๆ

หลังทำครบ 14 วันคุณหมอนัดตัดไหม จมูกเข้าที่แล้วรัดแกนไวมาก

ครบหนึ่งเดือนแล้วสวยมากค่ะรู้สึกชอบไปเที่ยวสงกรานต์มามีแต่คนชมว่าจมูกสวยไปทำที่ไหนมา ทรงจมูกเข้ากับรูปหน้าของมายด์มากค่ะ หน้าดูเด็กลงละมุนขึ้น ไม่ค่อยดูดุเหมือนแต่ก่อนแล้ว

ครบ 1 เดือน มายด์ก็มาติดตามอาการตามนัดค่ะ เพื่อเช็คทรง ติดตามอาการว่ามีเบี้ยว เอียง แผลมีปัญหามั้ย

และถ่ายภาพมุมต่างๆเก็บเป็นประวัติการรักษา จมูกมายด์ปกติดีค่ะ ไม่มีปัญหาเบี้ยวเอียง ตอนนี้เหลือแค่รอรัดแกนอีกประมาณ 10% จมูกจะเข้าที่ รัดแกนสวยที่ 2-3 เดือนค่ะ

จมูกเข้ากับหน้ามายด์มาย ทรงใหม่ สโลปปลายพุ่ง ละมุนมาก หน้าดูดีขึ้นเยอะมากๆ

รีวิวจากผู้ใช้บริการ