เลือกภาษา
Menu

การรักษาหลุมสิว

 

มาพูดถึงวิธีการรักษาหลุมสิวในปัจจุบัน ซึ่งจะประกอบไปด้วย 4 วิธีหลักๆ ได้แก่

  1. การทายารักษาหลุมสิว ซึ่งเป็นการรักษาจาผิวหนังชั้นบน ทำให้ผลการรักษาไม่ค่อยชัดเจน เหมาะสำหรับผุ้ที่มีปัญหาหลุมสิวชั้นตื้นมากๆ หรือแทบสังเกตไม่ค่อยเห็น
  2. การกินยารักษาหลุมสิว ในกลุ่ม RETINOIDS ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของ VITAMIN A
  3. การรักษาด้วยเลเซอร์ เช่น PICOLASER CARBOXY ซึ่งเป็นเครื่องมือรักษาหลุมสิวด้านส่งพลังงานจากผิวชั้นนอกลึงลงไปชั้นล่าง ทำให้อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวหนังชั้นบนบวมแดง เป็นรอยจ้ำแดงๆและอยู่บนผิวนานกว่า เจ็บมากกว่า เห็นผลน้อยกว่าเครื่องมือแพทย์ในกลุ่มที่รักษาโดยตรงที่ผิวชั้นลึก
  4. การรักษาด้วยเครื่อง RF ชนิดใหม่ล่าสุด เป็นเครื่องมือรักษาหลุมสิวโดยใช้พลังงาน RF ซึ่งผลข้างเคียงน้อยกว่าแบบเลเซอร์ซึ่งมักทิ้งรอยแดงหรือเกิดการผิวไหม้ได้ โดยที่บริเวณหัวของเครื่องมือจะมี 2 แบบ ได้แก่ FHR สำหรับรักษาปัญหาหลุมสิวแบบตื้น รูขุมขนกว้าง หรือ แบบ INTENSIF สำหรับรักษาหลุมสิวแบบลึก

 

ที่ SEOUL CLINIC THAILAND มีนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในการรักษาหลุมสิว รูขุมขนกว้าง รอยแผลเป็นร่องลึก โดยสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้อีกด้วย ช่วยให้หลุมสิว รูขุมขนที่กว้าง รอยแผลเป็นร่องลึก ตื้นขึ้นอย่างชัดเจน และยังช่วยให้ใบหน้ากระชับเต่งตึง ริ้วรอยจางลงอีกด้วย

ENDYMED FHR และ INTENSIF เป็นการนำ 2 เทคโนโลยี ได้แก่ เทคโนโลยีการใช้พลังงาน RF และเทคโนโลยี MICRONEEDLE มาใช้ร่วมกันในการรักษาหลุมสิว รูขุมขนกว้าง รอยแผลเป็นร่องลึก

 

ทำไมจึงควรรักษาหลุมสิวด้วยโปรแกรม FHR/INTENSIF ACNE SCAR ที่ SEOUL CLINIC

  • โดยการใช้หัวที่มีลักษณะ MICRONEEDLE ขนาดเล็ก จำนวน 25 หัวในการส่งพลัง RF ไปยังผิวหนังชั้นลึกได้อย่างตรงจุด โดยสามารถส่งผ่านพลังงานไปได้ถึงชั้นผิวหนังแท้(DERMIS)ได้อย่างง่ายดาย
  • เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดนี้ แพทย์สามารถปรับความลึกของชั้นผิวที่ต้องการทำการรักษาได้ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ทำให้ผลการรักษาออกมาชัดเจนและแม่นยำมากที่สุด
  • เนื่องจากเป็นการส่งผ่านพลังงานผ่านเทคโนโลยี MICRONEEDLE ทำให้ไม่เกิดรอยจ้ำแดงที่ผิวหนังชั้นบนหรือผิวไหม้เหมือนเลเซอร์ทั่วไป
  • เทคโนโลยี MICRONEEDLE กระตุ้นผิวชั้นผิวหนังแท้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ผิวชั้นลึก ส่งผลให้หลุมสิว รูขุมขน รอยแผลเป็นที่ลึกนั้นตื้นขึ้น ใบหน้ากระชับเต่งตึงขึ้น ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ริ้วรอยดูจางลงอีกด้วย
  • เทคโนโลยี RF ยังช่วยกระตุ้นผิวหนังชั้นนอกให้ดูเรียบเนียน ฟื้นฟูผิวหน้า(Skin Rejuvenatination) เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว (Skin Elasticity)อีกด้วย
  • ใช้เวลาน้อยมากในการฟื้นตัวหลังการรักษาเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยเลเซอร์ทั่วไป โดยใช้เวลาเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงอาการบวมแดงก็ลดลง
  • เป็นการดึงหน้า กระชับใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด (Non Surgical Facelift) หลังการรักษาจะมีการกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ใบหน้ายกกระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า
  • มีระบบ HYBRID NEEDLE ซึ่งเป็นการส่งผ่าน MICEONEEDLE เป็นจังหวะพร้อมส่งพลังงาน RF โดยไม่มีการกระแทก ทำให้ไม่เจ็บ และไม่เกิดอาการช้ำหลังรักษา (โดยจะมีการแปะยาชาร่วมด้วยก่อนทำโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายขณะทำหัตถการ)

 

โปรแกรม FHR/INTENSIF ENDYMED RFเหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีหลุมสิว รูขุมขนกว้าง แผลเป็นร่องลึก

     

  • ผู้ที่มีผิวแตกลาย

     

  • ผู้ที่มีผิวหนังที่เริ่มชราและผิวเสียจากแสงแดด

     

  • ผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ

     

  • ผู้ที่มีผิวตามตัวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ

ขั้นตอนการทำ

  1. ทำความสะอาดใบหน้าด้วย Cleansing Lotion สูตรไม่มีแอลกอฮอล์ อ่อนโยนต่อผิวแม้ผิวแพ้ง่าย

     

  2. ทายาชาทั่วใบหน้าและเคลือบด้วยแผ่นฟิล์มเพื่อป้องกันยาชาระเหย ช่วยให้ยาชาออกฤทธิ์ได้เต็มที่ ทิ้งไว้ 45-60 นาที

     

  3. เมื่อครบเวลาตามที่กำหนด ทำความสะอาดยาชาบนใบหน้า

     

  4. แพทย์ทำการรักษาด้วยเครื่อง FHR/INTENSIF ENDYMED

     

  5. หลังการรักษาครีมบำรุงผิวหน้าหลังทำ

 

เมื่อไรที่ควรทำซ้ำ

  1. แนะนำให้ทำซ้ำทุก 4 สัปดาห์ ติดต่อกัน 4-6 ครั้ง (ขึ้นกับสภาพผิวและปัญหาผิวแต่ละบุคคล)

     

  2. ผลกระชับใบหน้าและการกระตุ้นคอลลาเจน เห็นผลที่ 4-6 เดือน

รีวิวจากผู้ใช้บริการ