เลือกภาษา
Menu

เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน

สารบัญ

เสริมหน้าอก ปัจจุบันการผ่าตัดเสริมหน้าอก ราคา ทำนมได้รับความนิยมกว่าสมัยก่อนมาก เนื่องจากเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น เทคนิคและวิธีการผ่าตัดของแพทย์ก็พัฒนาตามไปด้วย

การเสริมหน้าอกมีหลายทางเลือก ซึ่งการผ่าตัดเสริมหน้าอก ด้วยถุงเต้านมเทียม หรือถุงซิลิโคนเป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะรูปร่างสวยงามและมีความแข็งแรง

ตำแหน่งการผ่าตัด

1.ใต้ราวนม

เป็นบริเวณที่ได้รับความนิยมเพราะแผลจะหลบอยู่ใต้ราวนมด้านข้าง ยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร มองไม่เห็นแม้เวลานอน (แอบยกเว้นสามีไว้คนนึง) การผ่าตัดทำได้เร็วกว่า จัดรูปทรงได้ง่าย เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดบริเวณอื่น

2.บริเวณรักแร้

ข้อดีคือไม่มีแผลเป็นอยู่บริเวณเต้านม ทำให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น แต่มีข้อเสียเล็กน้อยคือ หลังทำจะเจ็บแผลกว่าบริเวณใต้ราวนม และในกรณีถ้าต้องแก้ไข แพทย์มักแนะนำให้ทำบริเวณใต้ราวนม เพราะการแก้ไขทางรักแร้แม้จะทำได้แต่จะได้ผลไม่ดี

3.ปานนม

ตำแหน่งการวางซิลิโคน

สำหรับเทคนิคการเสริมหน้าอกซิลิโคน หรือตำแหน่งการวางซิลิโคนเสริมหน้าอกนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 3 เทคนิคด้วยกัน คือวางซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อ ใต้กล้ามเนื้อ และใต้กล้ามเนื้อบางส่วน

1.ใต้กล้ามเนื้อ

การวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อหน้าอกจะดูเป็นธรรมชาติที่สุด เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อย วางแล้วมองไม่เห็นขอบของถุงซิลิโคน เมื่อสัมผัสแล้วจะรู้สึกถึงเนื้อนมได้เต็มที่ เพราะถุงซิลิโคนจะซ่อนอยู่ใต้กล้ามเนื้อ การเสริมใต้กล้ามเนื้อจะค่อนข้างเจ็บแผลในระยะแรก แต่จะลดโอกาสการเกิดพังผืดได้ดี ซึ่งส่วนใหญ่คนไทยมีเนื้อเต้านมน้อย การเสริมในตำแหน่งนี้จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดนคล้อยได้มากกว่า

2.เหนือกล้ามเนื้อ

การวางซิลิโคนตำแหน่งนี้เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกพอสมควร ไม่เหมาะกับคนรูปร่างผอมบาง เพราะเนื้อบริเวณเต้านมจะน้อย ยิ่งผิวหนังบางเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีโอกาสเห็นซิลิโคนชัดมากขึ้น จะดูไม่เป็นธรรมชาติ แม้ว่าการวางซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อจะเจ็บปวดน้อยกว่าการวางใต้กล้ามเนื้อ แต่ตำแหน่งนี้มีโอกาสเกิดพังผืดสูง ถ้านวดไม่ดี เวลาเกิดพังผืดรัดจะมองเห็นขอบซิลิโคนเป็นริ้วๆ ได้ และเต้านมมีโอกาสหย่อนคล้อยได้มากกว่า

  1. เสริมหน้าอกวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อบางส่วน

สำหรับเทคนิคการเสริมหน้าอกโดยวางซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อบางส่วนจะเหมาะกับทุกสรีระร่างกาย หลังทำได้ทรงหน้าอกที่สวย สัมผัสนิ่มเป็นธรรมชาติ และลดโอกาสการคลำเจอขอบซิลิโคนได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญเป็นเทคนิคที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์สูงมาก ๆ อีกด้วย

การเลือกขนาด เลือกอย่างไร

มีตั้งแต่ 100-800 cc. แล้วแต่ความต้องการของคนไข้ การเลือกขนาดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างทั้งความสูง ความกว้างของช่วงไหล่ รวมถึงเนื้อหน้าอกว่า มีมากพอที่จะรองรับซิลิโคนได้หรือไม่

ถ้าเนื้อหน้าอกน้อยแต่เสริมเข้าไปเยอะ เมื่อคลำดูอาจจะเจอขอบซิลิโคน ทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ ถ้าคนไข้ตัวเล็กแต่เสริมขนาดใหญ่เกินไปก็จะดูไม่สมส่วน

เสริมหน้าอกแบบไหนดี? เหนือกล้ามเนื้อ vs ใต้กล้ามเนื้อ

เสริมหน้าอกที่โซลคลินิกไทยแลนด์

เทคนิค premium breast funnel ดีอย่างไร

เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับ อย. จากอเมริกาในการช่วยส่งผ่านซิลิโคนเต้านมเข้าสู่บริเวณผ่าตัด

กรวยพิเศษชนิดนี้มีลักษณะคล้ายกับถุงกรวยสำหรับแต่งขนมเค้กโดยจะนำมาใช้ในการผ่าตัดเพื่อให้เกิดแผลผ่าตัดที่เล็กที่สุดโดยแพทย์จะทำการบีบกรวยนี้เพื่อส่งผ่านซิลิโคนเข้าไปยังบริเวณผ่าตัด

ประโยชน์ของกรวยนี้

1.ช่วยให้แผลผ่าตัดเล็กลงซึ่งจะช่วยส่งผลให้รอยแผลเป็นเล็กลง ฟื้นตัวไวและไม่เจ็บอีกด้วย

2.ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเนื่องจากแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดจะไม่มีการสัมผัสที่ซิลิโคนเลยโดยอุปกรณ์1ชิ้นจะใช้เพียง 1 ครั้งต่อหนึ่งการผ่าตัดเท่านั้นซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนที่บริเวณซิลิโคนซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้

3.ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นเนื่องจากอุปกรณ์ชนิดนี้จะไปลดขนาดของแผลและทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อน้อยมากทำให้การฟื้นตัวค่อนข้างไวและช่วยลดอาการปวดหลังผ่าตัดได้มาก

4. ช่วยลดการบีบอัดตัวซิลิโคนเนื่องจากอุปกรณ์นี้จะสามารถส่งผ่านซิลิโคนได้โดยง่ายทำให้ไม่เกิดการบีบอาจซิลิโคนในขณะที่ใส่เข้าไปในบริเวณที่ผ่าตัดช่วยลดโอกาสในการเกิดซิลิโคนแตกและช่วยให้อายุของซิลิโคนยาวนานขึ้น

5. ช่วยให้การผ่าตัดได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เนื่องจากอุปกรณ์นี้ช่วยให้การใส่ซิลิโคนไปยังบริเวณผ่าตัดทำได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้นซึ่งส่งผลดีต่อคนไข้เนื่องจากทำให้บริเวณผ่าตัดบอบช้ำน้อยตามไปด้วยช่วยลดอาการบวมช้ำหลังผ่าตัด

ซิลิโคนเสริมหน้าอก แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร?

การเลือกยี่ห้อ ซิลิโคนเสริมหน้าอก ก็เป็นขั้นตอนในการเสริมหน้าอกไม่แพ้ขั้นตอนอื่น ๆ เพราะยิ่งเลือกซิลิโคนยี่ห้อที่มีคุณภาพมากเท่าไหร่ ซิลิโคนหน้าอกเหล่านั้นก็จะอยู่กับเราได้นานเท่านั้น และมีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่ำอีกด้วย ฉะนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่ามีซิลิโคนหน้าอกยี่ห้อไหนบ้างที่ได้มาตรฐาน ผ่านอย.ไทย แล้วแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อนั้นมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ตามมาอ่านพร้อม ๆ กันได้เลย

1. ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ GC Aesthetics

ข้อดี :  สัญชาติฝรั่งเศส มาตรฐาน CE จากยุโรป และผ่านอย. ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่โดดเด่นด้วยรูปทรงที่มีพุ่ง ฐานไม่กว้างมาก ไม่ออกข้าง เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่อยากได้ทรงหน้าอกสวยชัด มีฐานอกแคบ เนื้อหน้าอกน้อย 

ทั้งนี้มีให้เลือกใช้เฉพาะซิลิโคนผิวสัมผัสเนื้อทราย ที่สามารถลดโอกาสการเกิดพังผืดหลังทำได้เป็นอย่างดี โดยซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ GC Aesthetics เป็นซิลิโคนเสริมหน้าอกที่รับประกันในกรณีที่ซิลิโคนแตกตลอดชีวิต ทั้งยังเป็นซิลิโคนที่มีราคาเอื้อมถึง 

 

ข้อเสีย : เนื้อเจลไม่ได้เต็มมากความคง รูปของซิลิโคนจึงอาจจะน้อยกว่ายี่ห้ออื่นๆ ทำให้มีโอกาสผิวเป็นคลื่นได้

2. ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ MENTOR รุ่น Standard

ข้อดี : MENTOR เป็นยี่ห้อซิลิโคนเสริมหน้าอกสัญชาติอเมริกาที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพราะไม่เพียงแต่จะขึ้นชื่อว่าเป็นซิลิโคนที่มีความแข็งแรง ยืดหยุ่นสูง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน แตก รั่ว ซึมยาก รวมถึงทรงสวยเข้ากับสรีระสาวเอเชียได้ดียี่ยมแล้ว ยังมีราคากลาง ๆ เข้าถึงง่ายอีกด้วย 

โดยเฉพาะรุ่น Standard ที่จะมีลักษณะฐานกว้าง ทรงกลมสวย มีความพุ่งพอประมาณ สัมผัสนุ่มเล็กน้อย และมีให้เลือกใช้งานทั้งแบบผิวทราย และผิวเรียบ ในส่วนของประกันกรณีซิลิโคนแตกก็รับประกันตลอดชีวิตเลยทีเดียว

ข้อเสีย : เนื้อเจลไม่ได้เต็มมากความคง รูปของซิลิโคนจึงอาจจะน้อยกว่ายี่ห้ออื่นๆ ทำให้มีโอกาสผิวเป็นคลื่นได้

3. ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ Motiva Silk Surface

ข้อดี :  เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากเนื้อสัมผัสซิลิโคนมีความนุ่มหยุ่นสูง ผิวสัมผัสก็เป็นแบบกึ่งเรียบกึ่งผิวทราย หรือที่เรียกว่าผิวใยไหม Silk Surface นั่นเอง ทำให้ ลดโอกาสการ เกิดพังผืดได้ดี ในส่วนของรูปทรงก็กลมและพุ่งสวย 

และข้อดีอีกอย่างของซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อนี้ รุ่นนี้ก็คือไม่เพียงแต่จะรับประกันในกรณีที่ซิลิโคนแตกแบบตลอดชีวิตแล้ว ยังมาพร้อมกับการรับประกันในกรณีเกิดพังผืดระดับ 3-4 อีกด้วย 

ข้อเสีย : เปลือก หุ้มซิลิโคนผิวมีความหนาทำให้สัมผัสไม่ค่อยนุ่มมาก

4. ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ Motiva Ergonomix

ข้อดี : ซิลิโคนเสริมหน้าอกจาก Motiva อีกหนึ่งรุ่นที่ฮอตฮิตอย่างมาก เพราะถูกออกแบบให้เหนือชั้นกว่าซิลิโคนเสริมหน้าอกทั่วไป ทั้งมีผิวสัมผัสใยไหมเนียนนุ่ม เคลื่อนไหวตามสรีระร่างกายได้ความรู้สึกเหมือนเป็นหน้าอกธรรมชาติ มีความยืดหยุ่นสูง ลดโอกาสการเกิดพังผืด

ไม่เพียงเท่านั้นซิลิโคนเสริมหน้าอกรุ่นนี้จะมีการฝังชิพขนาดเล็กไว้ที่ซิลิโคนเพื่อเป็นการการันตีว่าได้มาตรฐานความปลอดภัย เป็นของแท้ ตรวจสอบได้อีกด้วย นอกจากนี้ก็มีการรับประกันทั้งในกรณีที่ซิลิโคนแตกและเกิดพังผืดเช่นเดียวกัน

ข้อเสีย :  เปลือกผิวมีความหนาทำให้สัมผัสไม่ค่อยนุ่มมาก แต่ก็นุ่มมากกว่ารุ่น Silk surface

5. ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ MENTOR รุ่น Xtragel หรือ Memory Gel

ข้อดี : อีกขั้นของซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ MENTOR กับรุ่น Xtragel ที่มีการเพิ่มปริมาณเจลใน ซิลิโคนเสริมหน้าอก ในรูปแบบ Memory Gel เพื่อให้รูปทรงซิลิโคนสวยงาม เต็มแน่น ได้หน้าอกที่สวยอวบอิ่ม คงรูป และลดโอกาสการเกิดผิวเป็นคลื่น เป็นริ้วหลังเสริมหน้าอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็มีผิวหุ้มซิลิโคนที่บางลง ทำให้แผลผ่าตัดเสริมหน้าอกเล็กลงอีกเช่นกัน

โดยมีให้เลือกใช้งานทั้งแบบผิวเรียบสัมผัสธรรมชาติ และผิวทรายช่วยลดโอกาสการเกิดพังผืดหลังเสริมหน้าอก ไม่เพียงเท่านั้นก็มีการรับประกันจัดเต็มทั้งในกรณีที่ซิลิโคนแตกตลอดการใช้งาน รับประกันการเกิดพังผืดระดับ 3-4 นานมากถึง 10 ปี รับประกันกรณีน้ำเหลืองสะสม และรับประกันเปลี่ยนซิลิโคนให้ทั้ง 2 ข้างอีกด้วย 

ข้อเสีย : ไม่มีชนิดผิวสัมผัสแบบใยไหมให้เลือก มีให้เลือกเฉพาะผิวทรายและผิวเรียบ

6. ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ GC Aesthetics รุ่น PERLE

ข้อดี : ซิลิโคนเสริมหน้าอกตัวท็อปของวงการขณะนี้ต้องยกให้ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ GC Aesthetics รุ่น PERLE ที่โดดเด่นด้วยเนื้อเจลนวัตกรรม Emunomic Tissue Dynamic Gel มีความหนาแน่นสูง แน่นเต็ม 100% ป้องกันการแตก รั่ว ซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยเจลที่แน่นเต็มซิลิโคนก็ไม่เพียงแต่จะช่วยลดการไม่สม่ำเสมอของซิลิโคนได้แล้ว ยังมอบสัมผัสนุ่มนิ่มแบบขั้นสุดคล้ายหน้าอกผู้หญิงธรรมชาติเป็นอย่างมากอีกด้วย รูปทรงก็กลมสวย เพิ่มความพุ่งเป็นทรงชัดให้หน้าอกได้เต็มที่ 

และด้วยความยืดหยุ่นสูงของซิลิโคนเสริมหน้าอกรุ่น PERLE นี้ ก็ทำให้เปิดแผลเสริมหน้าอกไม่กว้างมาก แผลผ่าตัดเล็กเพียง 1.8cm เท่านั้น ในส่วนของการรับประกันก็มีการรับประกันในกรณีซิลิโคนแตกตลอดอายุการใช้งาน รวมถึงมีประกันพังผืดระดับ3-4 น้ำเหลืองสะสม และกรณีเปลี่ยนซิลิโคนอีกด้วย โดยผิวสัมผัสเป็นแบบใยไหมซึ่งดีในแง่ของลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืดได้เป็นอย่างดี

ข้อเสีย : ราคาสูง

ตารางเปรียบเทียบซิลิโคน

ซิลิโคนเสริมหน้าอกเลือกตัวไหนดี

ใบเตรียมตัวทำหัตถการเสริมหน้าอกที่โซลคลินิกไทยแลนด์

ขั้นตอนการเข้ารับให้บริการเสริมหน้าอกที่โซลคลินิกไทยแลนด์

– นัดวันตรวจร่างกาย ตรวจเลือด วัดความหนาชั้นผิวหนังด้วยเครื่องมือเฉพาะเพื่อประเมินขนาดซิลิโคนที่สามารถใส่ได้

– รอผลตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการประมาณ 1-2 วัน

– เมื่อทราบผลการตรวจเลือด ร่างกายแข็งแรงดี ทางคลินิกจะทำการนัดวันผ่าตัด และแจ้งข้อมูลการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

– วันผ่าตัด : แพทย์ทำการผ่าตัด ตามขั้นตอนการผ่าตัด

– หลังผ่าตัด : ทางคลินิกมอบใบนัดหมายเพื่อมาติดตามอาการตามที่แพทย์กำหนด

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมหน้าอกที่โซลคลินิกไทยแลนด์

      แพทย์จะใช้ยานอนหลับเพื่อความสะดวกและลดอาการเจ็บปวดในการผ่าตัด โดยแพทย์จะผ่าตัดเปิดแผลบริเวณใต้ราวนมตามที่ตกลงกับคนไข้ไว้ หลังจากนั้นจะทำการใส่ถุงซิลิโคนบริเวณที่ทำการเปิดช่องไว้ เมื่อห้ามเลือดเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะค่อยๆ ใส่ซิลิโคนเข้าไปทีละนิดจนหมด เมื่อจัดรูปทรงเข้าที่แล้วเย็บปิดแผลด้วยไหมเล็กๆ จะเป็นแบบละลายหรือไม่ละลายก็ได้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ใช้เวลาผ่าตัด 2-3 ชั่วโมง ด้วยเทคนิคพิเศษของแพทย์ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องใส่สายระบายเลือด (ยกเว้นกรณีจำเป็นเท่านั้น เช่น คนไข้เลือดหยุดไหลยาก จากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น สูบบุหรี่จัด ดื่มแอลกอฮอล์เยอะ)

หลังผ่าตัดต้องดูแลตัวเองอย่างไร

ทำไมต้อง นวดนม หลังศัลยกรรม ?

ถ้าหากไม่ได้นวดหน้าอก จะส่งผลทำให้เกิดปัญหาซิลิโคนแข็งจนทำให้ดู และมีสัมผัสไม่เป็นธรรมชาติ นั่นก็เพราะพังผืดที่เกิดขึ้นรอบซิลิโคน ซึ่งเป็นสิ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อปกป้องไม่ให้มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย (เช่น ซิลิโคนที่ร่างกายคิดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมเลยสร้างพังผืดขึ้นมานั่นเอง)

พังผืดที่อยู่รอบซิลิโคนก็จะทำให้ซิลิโคนเริ่มแข็งตัว เมื่อจับไปแล้วเนื้อสัมผัสซิลิโคนที่ได้จะแตกต่างไปจากเนื้อสัมผัสปกติ นอกจากจะทำให้เนื้อสัมผัสของซิลิโคนเปลี่ยนไปแล้ว ยังส่งผลทำให้เมื่อซิลิโคนแข็งตัวทรงหน้าหน้าอกจะดูเป็นบล็อคขึ้น โดยเฉพาะหากเสริมหน้าอกที่เป็นทรงกลม ที่เน้นบริเวณเนินหน้าอก

ไม่เพียงเท่านั้นหากเกิดพังผืดขึ้นรอบซิลิโคนมากๆ ก็อาจส่งผลทำให้ซิลิโคนผิดรูปได้ ดังนั้นต้องระวังให้ดี หากไม่อยากให้หน้าอกแข็งเป็นบล็อค หรือเกิดปัญหาซิลิโคนเบี้ยว ไม่เท่ากันตามมา สิ่งที่ควรทำอย่างมากนั่นก็คือ “การนวดนม” เพราะการนวดจะช่วยทำให้เกิดพังผืดช้าลง และถ้าหากนวดเป็นประจำจะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดพังผืดได้ ไม่เพียงเท่านั้นการนวดหน้าอกยังช่วยในเรื่องอื่นๆ อีกด้วยไม่ว่าจะเป็น

– ช่วยป้องกันการหดรัดตัวของซิลิโคน

– ช่วยทำให้หน้าอกขยายตัวได้มากขึ้น

– ช่วยไม่ให้ซิลิโคนเป็นริ้ว หรือเกิดรอยย่นบริเวณหน้าอก

– ช่วยให้หน้าอกที่เสริมมาดูเป็นธรรมชาติ

ต้องนวดหน้าอกบ่อยแค่ไหน ?

การนวดหน้าอกสามารถทำได้ตั้งแต่ เมื่อแผลเสริมหน้าอกของเราหายสนิทดีแล้ว หรือหลังจากคุณหมอนัดตัดไหมแล้ว ไม่ควรรีบนวดในช่วงที่หน้าอกยังไม่เข้าที่ หรือยังไม่หายบวมมากนัก เพราะอาจทำให้เกิดอาการเจ็บขณะที่นวดได้ จนทำให้หน้าอกยิ่งบวม หรือเสียรูปทรงได้

การนวดหน้าอกที่ดีควรจะนวดอย่างต่อเนื่องในช่วงประมาณ 6 เดือนแรก เนื่องจากเป็นช่วงที่หน้าอกยังไม่เข้าทรงมากนัก ดังนั้นเราจึงต้องรักษารูปทรงของหน้าอกด้วยการนวด นอกจากนั้นในช่วงหลังเสริมหน้าอกไปแล้วประมาณ 1 – 2 ปี จะเป็นช่วงที่สามารถเกิดพังผืดรอบซิลิโคนได้มาก เพราะหลายคนมักจะละเลยการนวดหน้าอกไป หรือไม่ค่อยนวดหน้าอกเท่าในช่วงแรกๆ

การนวดหน้าอกสามารถทำได้ง่าย และใช้เวลาไม่นาน ถ้าจะให้ดีควรจะนวดหน้าอกวันละ 2 – 3 ครั้ง โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ หากทำอย่างต่อเนื่องจะช่วยทำให้การเกิดพังผืดช้าลง แต่ในช่วงหลังจาก 6 เดือนไปแล้วอาจจะเปลี่ยนมานวดประมาณ 2 – 3 ครั้ง / สัปดาห์ แต่ไม่ควรทิ้งเวลาให้นานจนเกินไป เพราะพังผืดอาจจะไปเกาะรอบๆ ซิลิโคนจนทำให้ซิลิโคนแข็งไปแล้วก็ได้

วิธีการนวดหน้าอก

แนวทางการเลือกว่าควรที่จะ เสริมหน้าอกที่ไหนดี

สำหรับท่านใดที่จะต้องการเสริมหน้าอกและมีความกังวลว่าจะต้องเลือก เสริมหน้าอกที่ไหนดี ทุกท่านสามารถเข้ามาศึกษาแนวทางการเลือกคลินิกเสริมหน้าอกผ่านทางเว็บไซต์ก่อนที่จะทำการตัดสินใจได้ดังต่อไปนี้

  • สำหรับท่านใดที่จะต้องการเสริมหน้าอกและมีความกังวลว่าจะต้องเลือก เสริมหน้าอกที่ไหนดี ทุกท่านสามารถเข้ามาศึกษาแนวทางการเลือกคลินิกเสริมหน้าอกผ่านทางเว็บไซต์ก่อนที่จะทำการตัดสินใจได้ดังต่อไปนี้
  • การศัลยกรรมหน้าอกเป็นการผ่าตัดขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ศัลยแพทย์ผู้ที่มีความรู้และเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เพื่อสร้างความมั่นใจจึงต้องมีการตรวจสอบว่าแพทย์ที่จะทำการผ่าตัดมีการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้วหรือไม่
  • ในการทำหน้าอกนั้นถือเป็นการผ่าตัดใหญ่พอสมควร ฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์การแพทย์ที่สำคัญอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องตรวจสอบคลื่นหัวใจ และอุปกรณ์กู้ชีพ  อีกทั้งจะต้องมีการตรวจสอบว่าเป็นอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งาน เพื่อสร้างความปลอดภัยในการผ่าตัด
  • ก่อนที่จะทำศัลยกรรม เสริมหน้าอก ควรมีการพูดคุยกับแพทย์เพื่อให้สามารถทราบถึงข้อดีข้อเสีย รวมถึงความเสี่ยงและขั้นตอนต่างๆ เมื่อท่านรับรู้ถึงข้อควรต่างๆ และสามารถรับได้ จึงค่อยพิจารณาเพิ่มเติมเพื่อที่จะตกลงเสริมหน้าอก
  • เมื่อท่านสนใจที่จะทำศัลยกรรมผ่าตัดเสริมหน้าอกกับทางคลินิกไหนก็ตาม ท่านก็ควรศึกษาไปถึงผลการรักษาในหลาย ๆ เคส ต้องมีการเปรียบเทียบก่อนและหลังทำการผ่าตัดเสริมหน้าอกว่ามีผู้ที่พึงพอใจมากน้อยเพียงใด เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ท่านสามารถตัดสินใจในการทำศัลยกรรมได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ทุกท่านควรรู้ว่าการศัลยกรรมผ่าตัด เสริมหน้าอกพักฟื้นกี่วัน

สำหรับการผ่าตัด เสริมหน้าอกพักฟื้นกี่วัน นั้น ทุกท่านสามารถเข้ามาทำความเข้าใจผ่านทางเว็บไซต์ได้เลย ซึ่งหลังจากผ่าตัดจะเป็นช่วงการพักฟื้นและเฝ้าดูอาการของผู้รับการผ่าตัด ในช่วงเวลานี้ก็อาจจะใช้ผ้าก๊อซพันไว้บริเวณทรวงอก หรืออาจให้ใส่เสื้อยกทรงสำหรับการผ่าตัด เสริมหน้าอก โดยเฉพาะ 

ดังนั้นการผ่าตัดเสริมหน้าอกอาจจะมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับการผ่าตัดทั่วไป โดยอาจจะทำให้มีอาการปวดบวม มีแผลฟกช้ำและคงอยู่เป็นเดือน จากนั้นจะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ก็ยังอาจจะตามมาด้วยแผลเป็นซึ่งเป็นธรรมดาของการผ่าตัด ดังนั้นแผลเป็นเหล่านี้จึงสามารถจางลงเป็นเส้นบางๆ ไปตามระยะเวลา แต่แผลเป็นที่เกิดขึ้นอาจมีลักษณะเด่นกว่าในผู้ที่มีผิวคล้ำ ก่อนที่จะกลับไปพักฟื้นรักษาตัวที่บ้านนั้น แพทย์ก็จะมีการจ่ายยาสำหรับบรรเทาอาการปวดและคลื่นไส้ และแน่นอนว่าเพื่อให้มีการรองรับว่าแผลการผ่าตัดนั้นจะไม่มีปัญหา ก็เป็นไปได้ว่าจะสามารถกลับไปทำงานได้ภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ 

ควรมีการหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงทั้งหลายที่จะส่งผลให้เกิดอัตราการเต้นของหัวใจ และความดันโลหิตสูงเป็นอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เมื่อระยะผ่านไปประมาณ 2-3 เดือน หน้าอกที่ทำการผ่าตัดจึงจะเริ่มดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เมื่อถึงระยะนี้แล้วสามารถหยุดใส่ยกทรงหรือชั้นในการรับเต้านมได้

ก็เพราะว่าการทำศัลยกรรม เสริมหน้าอก แน่นอนว่าศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นปัจจัยส่วนสำคัญทั้งในขั้นตอนก่อนผ่าตัด การเลือกใช้ซิลิโคน การแนะนำวิธีการผ่าตัดที่มีความเหมาะสม ตลอดจนขั้นตอนการผ่าตัดที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีและป้องกันภาวะการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ สำหรับท่านใดที่สนใจจะทำการเสริมหน้าอกควรที่จะศึกษาข้อมูลและควรรู้ว่า เสริมหน้าอกที่ไหนดี ที่ได้รับมาตรฐาน มีเครื่องมือ และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ประกอบกับการมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยประสบการณ์มากมายเพื่อให้ผลการผ่าตัดเป็นที่น่าพึงพอใจ ที่สำคัญจะต้องเลือกใช้บริการ เสริมหน้าอก ราคา ถูกที่มีคุณภาพและได้รับมาตรฐานที่สูงที่สุดนั่นเอง

โปรโมชั่นเสริมหน้าอกที่โซลคลินิกไทยแลนด์

รีวิว