เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน
ตำแหน่งการผ่าตัด
1.ใต้ราวนม
เป็นบริเวณที่ได้รับความนิยมเพราะแผลจะหลบอยู่ใต้ราวนมด้านข้าง ยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร มองไม่เห็นแม้เวลานอน (แอบยกเว้นสามีไว้คนนึง) การผ่าตัดทำได้เร็วกว่า จัดรูปทรงได้ง่าย เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดบริเวณอื่น
2.บริเวณรักแร้
ข้อดีคือไม่มีแผลเป็นอยู่บริเวณเต้านม ทำให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น แต่มีข้อเสียเล็กน้อยคือ หลังทำจะเจ็บแผลกว่าบริเวณใต้ราวนม และในกรณีถ้าต้องแก้ไข แพทย์มักแนะนำให้ทำบริเวณใต้ราวนม เพราะการแก้ไขทางรักแร้แม้จะทำได้แต่จะได้ผลไม่ดี
3.ปานนม
ตำแหน่งการวางซิลิโคน
การเลือกขนาด เลือกอย่างไร
เสริมหน้าอกแบบไหนดี? เหนือกล้ามเนื้อ vs ใต้กล้ามเนื้อ
เสริมหน้าอกที่โซลคลินิกไทยแลนด์
เทคนิค premium breast funnel ดีอย่างไร
ซิลิโคนเสริมหน้าอก แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร?
1. ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ GC Aesthetics
ข้อดี : สัญชาติฝรั่งเศส มาตรฐาน CE จากยุโรป และผ่านอย. ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่โดดเด่นด้วยรูปทรงที่มีพุ่ง ฐานไม่กว้างมาก ไม่ออกข้าง เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่อยากได้ทรงหน้าอกสวยชัด มีฐานอกแคบ เนื้อหน้าอกน้อย
ทั้งนี้มีให้เลือกใช้เฉพาะซิลิโคนผิวสัมผัสเนื้อทราย ที่สามารถลดโอกาสการเกิดพังผืดหลังทำได้เป็นอย่างดี โดยซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ GC Aesthetics เป็นซิลิโคนเสริมหน้าอกที่รับประกันในกรณีที่ซิลิโคนแตกตลอดชีวิต ทั้งยังเป็นซิลิโคนที่มีราคาเอื้อมถึง
ข้อเสีย : เนื้อเจลไม่ได้เต็มมากความคง รูปของซิลิโคนจึงอาจจะน้อยกว่ายี่ห้ออื่นๆ ทำให้มีโอกาสผิวเป็นคลื่นได้
2. ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ MENTOR รุ่น Standard
ข้อดี : MENTOR เป็นยี่ห้อซิลิโคนเสริมหน้าอกสัญชาติอเมริกาที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพราะไม่เพียงแต่จะขึ้นชื่อว่าเป็นซิลิโคนที่มีความแข็งแรง ยืดหยุ่นสูง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน แตก รั่ว ซึมยาก รวมถึงทรงสวยเข้ากับสรีระสาวเอเชียได้ดียี่ยมแล้ว ยังมีราคากลาง ๆ เข้าถึงง่ายอีกด้วย
โดยเฉพาะรุ่น Standard ที่จะมีลักษณะฐานกว้าง ทรงกลมสวย มีความพุ่งพอประมาณ สัมผัสนุ่มเล็กน้อย และมีให้เลือกใช้งานทั้งแบบผิวทราย และผิวเรียบ ในส่วนของประกันกรณีซิลิโคนแตกก็รับประกันตลอดชีวิตเลยทีเดียว
ข้อเสีย : เนื้อเจลไม่ได้เต็มมากความคง รูปของซิลิโคนจึงอาจจะน้อยกว่ายี่ห้ออื่นๆ ทำให้มีโอกาสผิวเป็นคลื่นได้
3. ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ Motiva Silk Surface
ข้อดี : เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากเนื้อสัมผัสซิลิโคนมีความนุ่มหยุ่นสูง ผิวสัมผัสก็เป็นแบบกึ่งเรียบกึ่งผิวทราย หรือที่เรียกว่าผิวใยไหม Silk Surface นั่นเอง ทำให้ ลดโอกาสการ เกิดพังผืดได้ดี ในส่วนของรูปทรงก็กลมและพุ่งสวย
และข้อดีอีกอย่างของซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อนี้ รุ่นนี้ก็คือไม่เพียงแต่จะรับประกันในกรณีที่ซิลิโคนแตกแบบตลอดชีวิตแล้ว ยังมาพร้อมกับการรับประกันในกรณีเกิดพังผืดระดับ 3-4 อีกด้วย
ข้อเสีย : เปลือก หุ้มซิลิโคนผิวมีความหนาทำให้สัมผัสไม่ค่อยนุ่มมาก
4. ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ Motiva Ergonomix
ข้อดี : ซิลิโคนเสริมหน้าอกจาก Motiva อีกหนึ่งรุ่นที่ฮอตฮิตอย่างมาก เพราะถูกออกแบบให้เหนือชั้นกว่าซิลิโคนเสริมหน้าอกทั่วไป ทั้งมีผิวสัมผัสใยไหมเนียนนุ่ม เคลื่อนไหวตามสรีระร่างกายได้ความรู้สึกเหมือนเป็นหน้าอกธรรมชาติ มีความยืดหยุ่นสูง ลดโอกาสการเกิดพังผืด
ไม่เพียงเท่านั้นซิลิโคนเสริมหน้าอกรุ่นนี้จะมีการฝังชิพขนาดเล็กไว้ที่ซิลิโคนเพื่อเป็นการการันตีว่าได้มาตรฐานความปลอดภัย เป็นของแท้ ตรวจสอบได้อีกด้วย นอกจากนี้ก็มีการรับประกันทั้งในกรณีที่ซิลิโคนแตกและเกิดพังผืดเช่นเดียวกัน
ข้อเสีย : เปลือกผิวมีความหนาทำให้สัมผัสไม่ค่อยนุ่มมาก แต่ก็นุ่มมากกว่ารุ่น Silk surface
5. ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ MENTOR รุ่น Xtragel หรือ Memory Gel
ข้อดี : อีกขั้นของซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ MENTOR กับรุ่น Xtragel ที่มีการเพิ่มปริมาณเจลใน ซิลิโคนเสริมหน้าอก ในรูปแบบ Memory Gel เพื่อให้รูปทรงซิลิโคนสวยงาม เต็มแน่น ได้หน้าอกที่สวยอวบอิ่ม คงรูป และลดโอกาสการเกิดผิวเป็นคลื่น เป็นริ้วหลังเสริมหน้าอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็มีผิวหุ้มซิลิโคนที่บางลง ทำให้แผลผ่าตัดเสริมหน้าอกเล็กลงอีกเช่นกัน
โดยมีให้เลือกใช้งานทั้งแบบผิวเรียบสัมผัสธรรมชาติ และผิวทรายช่วยลดโอกาสการเกิดพังผืดหลังเสริมหน้าอก ไม่เพียงเท่านั้นก็มีการรับประกันจัดเต็มทั้งในกรณีที่ซิลิโคนแตกตลอดการใช้งาน รับประกันการเกิดพังผืดระดับ 3-4 นานมากถึง 10 ปี รับประกันกรณีน้ำเหลืองสะสม และรับประกันเปลี่ยนซิลิโคนให้ทั้ง 2 ข้างอีกด้วย
ข้อเสีย : ไม่มีชนิดผิวสัมผัสแบบใยไหมให้เลือก มีให้เลือกเฉพาะผิวทรายและผิวเรียบ
6. ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ GC Aesthetics รุ่น PERLE
ข้อดี : ซิลิโคนเสริมหน้าอกตัวท็อปของวงการขณะนี้ต้องยกให้ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อ GC Aesthetics รุ่น PERLE ที่โดดเด่นด้วยเนื้อเจลนวัตกรรม Emunomic Tissue Dynamic Gel มีความหนาแน่นสูง แน่นเต็ม 100% ป้องกันการแตก รั่ว ซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยเจลที่แน่นเต็มซิลิโคนก็ไม่เพียงแต่จะช่วยลดการไม่สม่ำเสมอของซิลิโคนได้แล้ว ยังมอบสัมผัสนุ่มนิ่มแบบขั้นสุดคล้ายหน้าอกผู้หญิงธรรมชาติเป็นอย่างมากอีกด้วย รูปทรงก็กลมสวย เพิ่มความพุ่งเป็นทรงชัดให้หน้าอกได้เต็มที่
และด้วยความยืดหยุ่นสูงของซิลิโคนเสริมหน้าอกรุ่น PERLE นี้ ก็ทำให้เปิดแผลเสริมหน้าอกไม่กว้างมาก แผลผ่าตัดเล็กเพียง 1.8cm เท่านั้น ในส่วนของการรับประกันก็มีการรับประกันในกรณีซิลิโคนแตกตลอดอายุการใช้งาน รวมถึงมีประกันพังผืดระดับ3-4 น้ำเหลืองสะสม และกรณีเปลี่ยนซิลิโคนอีกด้วย โดยผิวสัมผัสเป็นแบบใยไหมซึ่งดีในแง่ของลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืดได้เป็นอย่างดี
ข้อเสีย : ราคาสูง
ซิลิโคนเสริมหน้าอกเลือกตัวไหนดี
ใบเตรียมตัวทำหัตถการเสริมหน้าอกที่โซลคลินิกไทยแลนด์
ขั้นตอนการเข้ารับให้บริการเสริมหน้าอกที่โซลคลินิกไทยแลนด์
– นัดวันตรวจร่างกาย ตรวจเลือด วัดความหนาชั้นผิวหนังด้วยเครื่องมือเฉพาะเพื่อประเมินขนาดซิลิโคนที่สามารถใส่ได้
– รอผลตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการประมาณ 1-2 วัน
– เมื่อทราบผลการตรวจเลือด ร่างกายแข็งแรงดี ทางคลินิกจะทำการนัดวันผ่าตัด และแจ้งข้อมูลการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
– วันผ่าตัด : แพทย์ทำการผ่าตัด ตามขั้นตอนการผ่าตัด
– หลังผ่าตัด : ทางคลินิกมอบใบนัดหมายเพื่อมาติดตามอาการตามที่แพทย์กำหนด